วิตามินซี
วันที่: 2011-09-29 21:15:42.0
วิตามินซี กับภูมิต้านทาน
วิตามินซีสามารถกระตุ้นกระบวนการต่อสู้เชื้อโรคของเม็ดเลือดขาวให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เม็ด- เลือดขาวตัวใหญ่ในร่างกายที่มีชื่อว่า "แมคโครฟาจ" ต้องการวิตามินซีเพื่อจะได้ฮุบกินเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น เชื่อว่าในระหว่างที่เซลล์แมคโรคฟาจกำลังกลืนกินเชื้อโรคอยู่นั้น จะเกิดปฏิกิริยาอนุมูลอิสระ และเป็นหน้าที่ของวิตามิน ซีที่จะช่วยต้านทานความเสียหายที่อาจจะเกิดจากอนุมูลอิสระนี้ ไลนัส พอลลิ่ง ยังมีรายงานเกี่ยวกับการใช้วิตามินซีป้องกันโรคหวัดว่า เมื่อใดก็ตามที่เด็กได้รับวิตามินซี เด็กจะ เป็นหวัดน้อยกว่า ถึงเป็นอาการก็ไม่มากนัก และระยะเวลาที่เป็นหวัดจะสั้นกว่าเด็กที่ไม่ได้รับวิตามินซี แสดงว่าวิตามิน ซีมีผลต่อการกระตุ้นภูมิต้านทานของเด็กให้มากขึ้น จึงสามารถต้านทานเชื้อไวรัสหวัดได้ในระดับหนึ่ง ดร.คลอส จังเกิลบลัด ใช้วิตามินซีขนาดสูงป้องกันอาการอักเสบของเส้นประสาทที่จะเกิดจากเชื้อไวรัสโปลิโอ ทำให้เกิดความพิการน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับวิตามินซี ดร.ราชิต จาริวาลลา พบว่าวิตามินซี สามารถกระตุ้นภูมิต้านทานในผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีให้เพิ่มมากขึ้น และพบ ว่าหากใช้วิตามินซีกับผู้ป่วย เม็ดเลือดขาวที่ติดเชื้อจะตายไป แต่เม็ดเลือดขาวปกติยังคงอยู่ แสดงว่าวิตามินซีทำลาย นอกจากนี้ยังมีการทดลองใช้วิตามินซีและไบโอฟลาโวนอยด์ในโรคเริม ปรากฏว่าเริมหายเร็วกว่าโดยเริ่มจะหาย ภายใน 4-5 วัน
บทบาทของวิตามินซี
วิตามินซีสามารถทำลายอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคเสื่อมของร่างกาย ซึ่งพอจะประมาณบทบาทของวิตามินซีได้ดังนี้
- ทำให้ Collagen แข็งแรง
- ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและนุ่มนวล
- พัฒนาโครงสร้างของเนื้อเยื่อเกี่ยวกัน ลดการเกิดเป็นแผลเป็น
- รักษากล้ามเนื้อและผิวพรรณไม่ให้ฉีกขาดง่าย และทำให้แผลหายเร็วขึ้น
- เสริมสร้างระบบภูมิต้านทานและช่วยไม่ให้เป็นหวัดง่าย
- เสริมปริมาณเม็ดเลือดขาวให้ทำงานเป็นปกติ
- เพิ่มการผลิตโปรดีน interferon ไม่ให้สร้างไวรัสในเซลล์ และสร้างภูมิคุ้มกันแข็งแรง
- เพิ่มปริมาณและความสามารถในการต่อต้านเชื้อไวรัส
- ผลต่อการต้านทานเชื้อไวรัสโดยตรง
- ควบคุมอาการภูมิแพ้
- ช่วยให้การสลายของฮีสตามีน (วิตามินซีเป็นสารต่อต้านฮีสตามินธรรมชาติ)
- ช่วยให้ต่อมแอตรินอลผลิตสารคอติโซนควบคุมปฏิกิริยาภูมิแพ้
- ทำให้ผนังเซลล์แข็งแรงในการผลิตสารฮีสตามินเพื่อลดการอักเสบ
- ลดอาการแพ้ต่าง ๆ
- ช่วยให้การทำงานของหัวใจดีขึ้น
- ช่วยให้ระดับไขมันในเลือดลดลง และป้องกันไม่ให้เกิดออกซิเดชัน (Oxidation)
- ลดการเกาะตัวกันของเกล็ดเลือด
- ช่วยให้เร่งขบวนการสังเคราะห์สารคานิตัน (สารโปรดีนซึ่งมีความสำคัญต่อหัวใจ)
- ช่วยไม่ให้เลือดแข็งตัว (fibrinolysis)
- ทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งแรง
- ลดอาการอักเสบ
- เร่งร่างกายสลายสารฮีสตามีน
- ช่วยให้ร่างกายผลิตสารต่อต้านการอักเสบของร่างกาย (ฮอร์โมน PGEI) ช่วยลดการอักเสบของเซลล์ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ
- ทำให้เนื้อเยื่อของเซลล์แข็งแรง
- ช่วยไม่ให้กระดูกเสื่อม
- ช่วยให้การดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น
- ช่วยป้องกันโลหิตจาง
- เหมาะสำหรับคนที่ขาดธาตุเหล็ก ในคนที่กินผักลดอาหาร และตั้งครรภ์ หรือช่วงที่มีรอบเดือน
- ชลอความแก่และลดการเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง
- ลดการรวมตัวของพวกไนโตรซามีน และสารคาซินโนเจน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในร่างกาย
- ช่วยไม่ให้เกิดการสันดาบของออกซิเจนต่อเซลล์ และป้องกันไม่ให้ผิวหนังเกิดอนุมูลอิสระ
ที่มา: http://www.oknation.net/blog/yorin/2007/09/03/entry-2